ข้อควรปฏิบัติในการใช้เครื่องปั่นไฟที่ช่างแนะนำ มีอะไรบ้าง

Last updated: 25 พ.ค. 2567  |  65 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ข้อควรปฏิบัติในการใช้เครื่องปั่นไฟที่ช่างแนะนำ มีอะไรบ้าง

ข้อควรปฏิบัติในการใช้เครื่องปั่นไฟที่ช่างแนะนำ มีอะไรบ้าง 

1. ไม่จ่ายกระแสไฟเกินกำลังของเครื่องปั่นไฟ

2. ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำขณะที่เครื่องยนต์ยังร้อนอยู่

3. ไม่ควรปรับอุปกรณ์ขณะที่เครื่องจ่ายกระแสไฟ

4. ไม่ควรปรับเบรคเกอร์บ่อยๆ

5. ตรวจสอบกระแสแรงดันและความถี่ไฟฟ้าอยู่เสมอ

6. ควรมีผู้ที่ดูแลขณะเครื่องกำลังทำงานอยู่ทุกครั้ง

7. หลังจากการใช้งานควรหมุนคั่วไฟให้แน่น และใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ

8. สายพานของเครื่องปั่นไฟควรใส่น้ำมันหล่อลื่นทุกครั้งหลังการใช้งาน

9. สถานที่ติดตั้งต้องมีการระบายอากาศเป็นอย่างดีและไม่เป็นสถานที่ที่มีสารเคมีหรือวัตถุไวไฟ

10. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องยนต์ทุกครั้งก่อนใช้งาน เพื่อเป็นการบำรุงรักษาสภาพเครื่องยนต์ภายในให้มีสภาพดีอยู่เสมอ

รู้หรือไม่ว่าหากต้องเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟสำหรับใช้สำรองไฟฟ้ายามฉุกเฉิน อุตสาหกรรมขนาดใหญ่และโรงงานต่างๆมักจะเลือกใช้ ’เครื่องปั่นไฟดีเซล’ มากกว่าเครื่องปั่นไฟเบนซินเพราะว่าเครื่องยนต์ดีเซลมีข้อได้เปรียบเหนือเครื่องยนต์เบนซินมากมาย
แต่ก่อนที่เราจะพูดถึงข้อแตกต่างระหว่างเครื่องปั่นไฟทั้งสองประเภท เรามาดูความเหมือนที่ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินนี้มีกันก่อนดีกว่า

- สามารถทำงานได้ดีในอุณหภูมิแวดล้อมที่สูง

- สามารถทำงานได้ดีกับเครื่องจักรที่สตาร์ทแบบเฮฟวี่ดิวตี้ (ใช้เวลาในการสตาร์ทนาน เช่น พัดลมหอยโข่งและโบลเวอร์)
เชื้อเพลิงหาซื้อได้ง่าย

- เครื่องยนต์มีประสิทภาพสามารถเชื่อถือและไว้วางใจได้

- มลพิษที่เกิดจากการใช้งานมีปริมาณน้อย

- ผลิตกระแสไฟ/พลังงานได้อย่างรวดเร็ว

- เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วและเป็นที่นิยมใช้กันโดยทั่วไป


เครื่องปั่นไฟดีเซลดีกว่าเครื่องปั่นไฟเบนซินอย่างไร เรามาเริ่มตั้งแต่เชื้อเพลิงที่เครื่องยนต์ทั้งสองใช้กันเลย

  • น้ำมันดีเซลคือทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าหากคุณต้องเก็บเชื้อเพลิงไว้ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิแวดล้อมที่สูงหรือมีวัตถุไวไฟ เช่น โรงรถ เนื่องจาก น้ำมันเบนซินนั้นมีคุณสมบัติไวไฟมากกว่าซึ่งทำให้มีความเสี่ยงมากกว่าในการที่จะเกิดอุบัติเหตุ

  • น้ำมันดีเซลยังมีอายุในการเก็บรักษาที่นานกว่า หากเก็บรักษาอย่างดีน้ำมันดีเซลสามารถเก็บได้นาน 6-12 เดือน ในทางตรงกันข้าม น้ำมันเบนซินสามารถเก็บได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น อายุการเก็บรักษาที่สั้นลงนี้หมายความว่าน้ำมันเบนซินจะต้องได้รับการบำบัดและใช้ในอัตราที่มากกว่าน้ำมันดีเซล 2-4 เท่าซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในระยะยาวสูงขึ้นด้วย

  • เชื้อเพลิงดีเซลมีราคาที่ถูกกว่า เนื่องจากรถยนต์และเครื่องยนต์เล็กๆส่วนใหญ่ใช้เชื้อเพลิงเบนซินทำให้ น้ำมันเบนซินมีราคาที่สูงกว่าตามความต้องของตลาดนั่นเอง

  • เครื่องยนต์ดีเซลมีกำลังในการอัดอากาศที่สูงเพื่อให้เกิดการจุดละเบิดและเผาไหม้ด้วยตัวเองทำให้ไม่ต้องพึ่งพาระบบหัวเทียนในการทำงาน

  • หากเทียบกับผลลัพธ์ที่เท่ากัน เครื่องยนต์ดีเซลจะเผาไหม้น้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซินทำให้เครื่องยนต์ดีเซลประหยัดพลังงานมากกว่า

  • เครื่องยนต์ดีเซลจะดูแลรักษาง่ายกว่าเนื่องจากไม่ต้องใช้หัวเทียนและคาร์บูเรเตอร์ในการจุดระเบิด หากเปิดใช้งานเครื่องที่ 1,800 RPM เครื่องยนต์ดีเซลสามารถทำงานได้ 12,000-30,000 ชั่วโมงโดยไม่จำเป็นต้องบำรุงอะไรมาก ในทางกลับกันเครื่องยนต์เบนซินจะทำงานได้เพียง 6,000-10,000 ชั่วโมงเท่านั้น (RPM=รอบต่อนาที หรือ Revolutions per minute)

  • อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เครื่องปั่นไฟดีเซลมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าคือความร้อนที่ผลิตออกมาขณะที่เครื่องยนต์ทำงานมีปริมาณน้อย ซึ่งความร้อนนี้จะส่งผลโดยตรงกับอะไหล่และส่วนประกอบอื่นๆของเครื่องปั่นไฟ ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซลจะปล่อยความร้อนระหว่าการทำงานน้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ทำให้อะไหล่และส่วนอื่นๆของเครื่องมีอายุการใช้นานที่ยาวนานขึ้นตามไปด้วย

  • เครื่องยนต์ดีเซลถูกออกแบบสำหรับการใช้งานที่หนักและต่อเนื่อง ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีกว่าไม่ว่าจะเป็นงานหนัก งานเบา ในทางตรงกันข้ามเครื่องยนต์เบนซินไม่ได้ถูกออกแบบสำหรับการงานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จึงไม่เหมาะกับการใช้งานกับเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานมาก

แต่ข้อดีทั้งหมดที่กล่าวนี้ก็อาจจะต้องแลกมาด้วยน้ำหนักที่มากกว่าและเสียงดังกว่านั่นเอง


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้